ขั้นที่ 1 การเตรียมพื้นผิว

พื้นผิวหลังคาใหม่ :
หลังคาควรมีความชื้นน้อยกว่า 14% โดยให้ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นละออง และคราบสกปรก

พื้นผิวหลังคาเก่า :
กรณีเป็นหลังคาที่เคยทาสีมาแล้ว หรือหลังคาเก่าที่มีปัญหา ให้ซ่อมแซมพื้นผิวที่มีปัญหาก่อนเสมอ ขัดล้างสีเดิมที่เสื่อมสภาพออก และหลังคาควรมีความชื้นน้อยกว่า 14% โดยให้ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นละออง และคราบสกปรกให้เรียบร้อย

• สำหรับหลังคาที่มีปัญหาลอกล่อน โป่งพอง เป็นฝุ่นผง ต้องขัดลอกสีเดิมออก แล้วจึงทำความสะอาดพื้นผิว
• สำหรับหลังคาที่มีปัญหาเชื้อรา ตะไคร่น้ำ ให้ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิว แล้วทาด้วยน้ำยากำจัดเชื้อราตะไคร่น้ำ เบเยอร์ โมลด์ฟรี เอ็ม-001 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งไว้ให้แห้ง 1 วัน โดยไม่ต้องล้างออก
• สำหรับพื้นหลังคาที่มีรอยแตกร้าวขนาด 2 – 10 มม. ให้อุดโป๊วด้วยผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ อะคริลิก ซีลแลนท์ เอฟ-001 กรณีหลังคามีรอยแตกร้าวใหญ่ อาจจะต้องเปลี่ยนหลังคาใหม่ก่อนทาสี

ขั้นที่ 2 การทาสีรองพื้น

หลังคาใหม่ (กระเบื้อง):
ทาสีรองพื้นเบเยอร์ โปรควิก บี-1900 หรือ ซูเปอร์ควิก บี-2100 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งให้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง

หลังคาเก่า (กระเบื้อง):
หลังจากซ่อมแซมพื้นผิวเรียบร้อยแล้ว ทาสีรองพื้นเบเยอร์ โปรควิก บี-1900 หรือ ซูเปอร์ควิก บี-2100 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งให้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง

พื้นผิวอื่น ๆ:
หากต้องการนำไปใช้ทาสนามกีฬา บล็อกปูถนน หรือพื้นผิวปูนตัดขอบบ้าน ทาสีรองพื้นเบเยอร์ โปรควิก บี-1900 หรือ ซูเปอร์ควิก บี-2100 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งให้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง

เคล็ดลับเพิ่มเติม

สำหรับกรณีที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทนความชื้น สามารถทาด้วยสีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ทนชื้นสูง อย่าง เบเยอร์ วอเตอร์ บล็อก บี-3100 ได้เช่นเดียวกัน

**สีรองพื้นทุกตัวที่แนะนำสามารถใช้งานได้ทันที สำหรับกรณีต้องการผสมทินเนอร์แนะนำให้ผสมด้วยทินเนอร์เบเยอร์ M-15 ในอัตราส่วนไม่เกิน 5%

ขั้นตอนที่ 3 การทาสีหลังคา

ผสมน้ำสะอาดในอัตราส่วน 10-15% และทาสีหลังคาอะคริลิกแท้ 100% จำนวน 2-3 เที่ยว โดยทิ้งระยะให้สีที่ทาชั้นแรกแห้งสนิทก่อน 2-3 ชั่วโมงจึงทาทับเที่ยวถัดไป